อาราเบีย ต้นศตวรรษที่ 20 ภายใต้ความขัดแย้งที่คุกรุ่น ก่อเกิดเป็นสงครามระหว่างสองเผ่าใหญ่ เนซิบแห่งฮอไบกา (อันโตนิโอ แบนเดอรัส) ผู้มีชัย ยื่นข้อเสนอสันติภาพแก่ อามาร์แห่งซัลมาห์ (มาร์ค สตรอง) ผู้พ่ายแพ้ ให้พื้นที่พิพาทระหว่างสองอาณาจักร เป็นดินแดนที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าครอบครอง ซึ่งถูกเรียกว่าเขต “เยลโลว์ เบลท์” อีกทั้งอามาร์ต้องส่งบุตรชายทั้งสองของเขา ซาลีห์และอูดา ให้มาอยู่ในการดูแลของเนซิบ เพื่อเป็นหลักประกันว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่ละเมิดข้อตกลง หลายปีต่อมา เด็กทั้งคู่เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ ซาลีห์ (อาคิน กาซี) สนใจเรื่องอาวุธและการต่อสู้ ตรงข้ามกับอูดา (ทาฮาร์ ราฮิม) ที่หมกมุ่นอยู่กับตำรา และการใฝ่หาวิชาความรู้
และแล้วอนาคตของอาราเบียก็เริ่มแปรผัน เมื่อพ่อค้าน้ำมันชาวอเมริกันคนหนึ่ง (คอรีย์ จอห์นสัน) มาเยือนฮอไบกา และบอกว่าดินแดนแห่งนี้อุดมไปด้วยน้ำมันมูลค่ามหาศาล ซึ่งจะทำให้คนที่เป็นเจ้าของมัน ได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เขาปรารถนา เหตุนี้เอง เนซิบจึงเริ่มฝันถึงถนนหนทางที่สะดวกสบาย รวมทั้งโรงเรียน และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าผืนดินที่โอบอุ้มน้ำมันไว้นั้น คือผืนดินที่อยู่ในเขตเยลโลว์ เบลท์ ซึ่งห้ามผู้ใดล่วงล้ำนั่นเอง
เมื่อซาลีห์พยายามหนีกลับไปยังดินแดนบ้านเกิด เขาจึงถูกสังหาร ภาระหนักได้ตกอยู่ที่อูดา ผู้กลายมาเป็นความหวังเดียวในการรักษาสันติให้คงอยู่ต่อไป เขาต้องเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าหญิงเลย์ลา (ฟรีดา พินโต) ธิดาของเนซิบ เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีอีกครั้ง จากนั้นเนซิบก็ส่งอูดาไปซัลมาห์ในฐานะทูตสันติภาพ ทว่านั่นคือการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้หนุ่มผู้คงแก่เรียน ในเรื่องของความนอบน้อมถ่อมตน, ความเสียสละ และความศรัทธา อูดาได้เปลี่ยนตัวเองจากชายผู้หมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุด ไปเป็นผู้นำที่น่าเกรงขาม เขาเดินทางกลับไปหาเนซิบ พร้อมภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายจากอามาร์ผู้เป็นบิดา ภารกิจแห่งการแย่งชิงดินแดนเยลโลว์ เบลท์ ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของทั้งสองอาณาจักรไปตลอดกาล